ก่อนตีตั๋ว บอกเลยว่าผมทำใจและปล่อยวางหลายๆ อย่างแล้ว บอกตัวเองว่ามันเป็นหนังตลกมหาชน
ลุ้นอย่างเดียวคือมุขจะแป้กไหมแค่นั้น หลายคนคงสงสัยว่า ผมตีตั๋วทำไม เพราะเพื่อนสนิทมันอยากดูกันครับ เลยโอเคตามมันไป
1. มุขตลก :
สำหรับผมพอแค่ให้ยิ้มมุมปากครับ ไม่ถึงกะปล่อยก๊ากเลยซักครั้ง (แต่เพื่อนผมนี่ หัวเราะก๊ากเลย หรือว่าผมเส้นลึก)
2. ใช้ฉากสิ้นเปลือง :
ฉากบางฉากไม่จำเป็นต่อการดำเนินเรื่อง เว้นแต่จะยัดเข้ามาเพื่อเอาตลกลูกเดียว เลยทำให้อารมณ์สะดุดบ่อยๆ ไม่มีความประติดประต่อกัน
3. เส้นหลักของหนังเบาบางประดุจลอรีเอะ ซุปเปอร์ อัลตร้า สลิม :
เส้นหลักของหนังก็คือ สาเหตุที่ทำให้แจ๊สหนีมาบวชนี่แหละ ต้นเรื่องดูเหมือนจะหนักหนาสาหัส ทำให้ผมอยากรู้ว่าแจ๊สจะแก้ไขอย่างไร
สุดท้ายเส้นเรื่องนี้ก็ตัดจบมันไปซะดื้อๆ ง่ายๆ (อย่างว่าแหละ "หนังตลกจะเอาไรมากวะ" คนบางคนคงตอกคำนี้ใส่หน้าผม) แต่ข้อนี้แหละ
เป็นข้อสำคัญที่ทำให้ผมตัดสินว่า "หนังเรื่องไหนดีเรื่องไหนห่วย" เพราะโครงเรื่องหลักของตัวเอง ยังห่วยอย่างนี้ ส่วนประกอบอื่นๆ คงไม่ต้องหวังเเล้ว
ปล. หนังตลกในดวงใจของผมยังยกให้ "แสบสนิท ศิษย์ส่ายหน้า" นี่แหละหนังตลกคุณภาพ
ปล 2. พอกลับมาถึงบ้าน พอรู้ว่าเป็นหนังของพจน์...เลยไม่แปลกใจกับเนื้อเรื่องจะบางเบาอย่างนี้
ปล 3. รายรับของภาพยนต์เยอะอย่างนี้ ถือเป็นกำไรของทางผู้ผลิตจริงๆ แต่สำหรับคนดูถือว่าขาดทุนครับ เพราะอนาคตจะมีหนังแนวๆ นี้
ออกมาเรื่อยๆ ก็มันขายได้นี่หว่า (จะว่าไปก็เป็นตลกร้ายนะ ทีสินค้าประเภทอื่นๆ เราชอบที่บริโภคหรืออุดหนุนของดีมีคุณภาพ
แต่พอเป็นหนัง เรากลับเลือกบริโภคหนังที่ไม่ต้องมีคุณภาพก็ได้ เน้นเอาบันเทิงลูกเดียว)